บัลลังก์รักป่าเถื่อน
ตอนที่ 4
ณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง ใกล้ๆกับบ้านของท่านทูตและภริยา ซึ่งห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ จะมีแต่ระดับไฮโซ ระดับคุณหญิง คุณนาย
เท่านั้นที่จะมาเดินช็อปปิ้ง
ซึ่งส่วนใหญ่จะขึ้นชื่อในเรื่องของอัญมณีและเครื่องประดับที่มีมูลค่า หนึ่งในนั้นมีร้านเพชรของเศรษฐีเมืองไทยที่ได้มาเปิดร้านอยู่ที่นี่ โดยที่กวินได้เข้าไปทำงานพาสไทม์ที่ร้านด้วย
จนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น…
“เฮ้ยๆๆทุกคน
ไอ้วิน มันขโมยเครื่องเพชรของลูกค้าจริงๆ ”
เสียงร้องดังขึ้นท่ามกลางร้านเพชรที่อยู่ในห้าง ซึ่งมีผู้คนหันมามองเป็นจำนวนมาก
ต่างก็ให้ความสนใจมาที่เสียงร้องว่าเกิดอะไรขึ้น…
“ผมไม่รู้เรื่องนะ
ผมไม่ได้ขโมย ผมไม่ได้ขโมย” เสียงร้องข้องกวินดังขึ้น
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของร้านใช้กุญแจล็อกมือของกวินไว้แล้วลากออกไปจากร้านเพื่อส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างทุลักทุเล
“พี่ครับ ผมไม่ได้ทำนะ
ผมไม่ได้ขโมย ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ” กวินร้องบอกเจ้าหน้าที่ด้วยน้ำเสียงที่เศร้าและสะอึก
โดยน้ำตานั้นไหลออกมาอย่างไม่ยอมหยุด
“ผมไม่รู้หรอกว่าคุณขโมยจริงหรือไม่จริง
แต่หลักฐานมันมัดตัวคุณแน่นขนาดนี้คุณจะบอกว่าไม่ได้ขโมยไม่ได้” เสียงของเจ้าหน้าคนหนึ่งที่เป็นคนไทยร้องมาที่กวินด้วยน้ำเสียงที่ดุดันและทำสีหน้าเคร่งเครียด
“พี่รู้ได้อย่างไรว่าผมขโมย
เอาอะไรมาพูด”
กวินร้องเถียงเจ้าหน้าที่พลางร้องไห้สะอึกสะอื้น “แล้วพี่จะพาผมไปไหน”
กวินร้องถามด้วยน้ำเสียงโศกเศร้าทั้งที่น้ำตาไหลออกมาไม่ยอมหยุด
“มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย
ทำไมเราถึงต้องเป็นแบบนี้” กวินคิดถามตัวเองในใจอยู่ตลอดเวลา
ในขณะที่รถกำลังวิ่งมุ่งหน้าไปที่สถานีตำรวจ
“คุณตำรวจครับ นี่ครับ
จับได้แล้วคนที่ขโมยเครื่องเพชรของลูกค้าในร้าน” เสียงของชายเจ้าหน้าที่ของร้านพูดกับตำรวจ
เมื่อกวินถูกจับส่งตำรวจ
กวินไม่สามารถแก้ตัวใดๆ ได้ จึงเอาแต่นั่งร้องไห้อยู่ตลอดเวลา คิดไม่ออกว่าจะให้ ใครช่วย
โทรศัพท์ก็ไม่มี เบอร์เพื่อนก็จำไม่ได้ เอาแต่นั่งกอดเข่าก้มหน้า
คิดไปเรื่อยเหมือนคนที่จิตตก เพราะเป็นห่วงเรื่องเรียนของตัวเอง
กลัวจะถูกตัดสิทธิจากทุน เมื่อกวินนั่งอยู่สักพักจึงรวบรวมสติและความกล้าที่จะต่อสู้กับความอยุติธรรม
จึงลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงไปที่โต๊ะของคุณตำรวจ
“ สรุปผมจะต้องติดคุกใช่ไหมครับ
ผมไม่ได้ทำความผิด ผมไม่ได้ขโมยนะครับ ฮือ ฮือ ฮือ ” กวินร้องถามตำรวจทั้งที่ยังร้องไห้มือเช็ดน้ำตา
“ผมต้องทำยังไงผมถึงจะได้กลับบ้าน ฮือ ฮือ ฮือ” กวินถามเจ้าหน้าที่ด้วยน้ำเสียงที่สั่นๆ…
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นอาการของกวิน
ก็เกิดความสงสาร จึงคิดหาทางที่จะช่วยให้กวินไม่ต้องนอนที่คุกใน วันนี้
“คุณก็ต้องหาเงินมาประกันตัวแล้วหลักฐานมาสู้คดี
สิครับ” เจ้าหน้าที่ตำตรวจพูดกับกวินด้วยความสงสาร พร้อมทั้งยื่นผ้าเช็ดหน้าอาหารและน้ำดื่มให้
“แต่ผมไม่รู้จักใครเลยนะครับ
ผมพึ่งเดินทางมาที่นี่ได้ไม่นาน ฮือ ฮือ ฮือ ผมได้ทุนจากประเทศไทยมาเรียนต่อ นะครับ ฮือ ฮือ ฮือ” กวินตอบเจ้าหน้าที่ตำรวจพลางร้องไห้สะอึกสะอื้นเอาผ้าเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาอยู่ตลอดเวลา
“เออ…เอาอย่างนี้ละกันนะ เดี๋ยวผมจะติดต่อไปที่สถานทูตไทยให้เขาทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณก่อนเพราะคุณเป็นนักศึกษาทุนเขาคงจะช่วยคุณได้ แต่ตอนนี้คุณต้องอยู่ในห้องขังก่อนนะ
เพื่อรอสอบสวนคดีเพิ่มเติมและรอคนที่สถานทูตมา” เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดกับกวินด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเศร้าๆ เพราะสงสาร
เมื่อคุณตำรวจพูดเสร็จจึงทำให้กวินนั้นมีความหวังขึ้นมาบ้าง
แต่ในใจลึกๆ ของกวิน
ก็คิดว่าถ้าเรื่องนี้ถึงสถานทูตก็จะทำให้เรื่องเรียนของตนเองนั้นมีปัญหา
ถ้ายังหาหลักฐานมาเอาผิดคนที่ใส่ความตนไม่ได้ทันเวลา กวินก็ได้เอาแต่นั่งเหม่อลอยร้องไห้
ไม่พูดไม่จากับใคร จนเกือบค่ำ
“แข็ก
แข็ก แข็ก” เสียงเปิดประตูเหล็กของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“ คุณกวินเกียรติ… มีเจ้าหน้าที่จากสถานทูตมาขอพบคุณ” เสียงเจ้าหน้าที่ตำรวจพูดกับกวิน
“ใครครับ
ใครครับ” กวินร้องถามเจ้าหน้าที่ด้วยความดีใจพลางรีบลุกขึ้นส่องสายมองหา
“เขารอคุณอยู่ด้านนอก
เดินตามผมออกมา” เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดกับกวินแล้วเดินจูงมือของกวินออกมาข้างนอกเพื่อสอบสวนอีกครั้ง
ในขณะที่กวินออกมาถึงหน้าห้องสอบสวน
กวินก็ได้พบกับปกรณ์เจ้าหน้าที่สถานทูต คนที่เคยไปรับตนที่ สนามบินอีกครั้ง
พร้อมตะโกนว่า “คุณปกรณ์ครับ
ผมไม่ได้ทำ ผมไม่ได้ขโมยนะครับ ช่วยผมด้วย” กวินร้อง บอกปกรณ์ด้วยน้ำเสียงที่ดูมีความหวัง
ในขณะที่กำลังเดินออกมาจากห้องขังพร้อมกับเจ้าหน้าที่…
“คุณตำรวจครับ
ผมขอคุยกับกวินสักครู่ได้ไหมครับ” ปกรณ์พูดกับเจ้าที่ตำรวจแล้วเดินตรงไปนั่งที่เก้าอี้เพื่อคุยกับกวิน
กวินเมื่อเห็นปกรณ์ก็รีบโผเข้ากอดอย่างเต็มแรง
พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง “พี่ต้องช่วยผมนะครับ
ฮึ ฮึ ฮึ ผมไม่ได้ขโมยจริงๆ ฮือ ฮือ ฮือ ” กวินพูดกับปกรณ์ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือและร้องไห้อยู่ตลอดเวลา
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะ
เรื่องนี้จะยังไม่ถึงสถานทูต จะไม่ส่งผลต่อการเรียนของคุณแน่นอน
ถ้าหากคุณไม่ได้ทำความผิดจริงๆ”
ปกรณ์พูดกับกวินด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงพร้อมโอบกอดแล้วเอามือลูบหลังเพื่อให้กำลังใจ
สักพักปกรณ์ก็เอามือผลักตัวของกวินออกแบบเบาๆ โดยที่มือทั้งสองข้างของปกรณ์นั้นจับอยู่ที่บ่าของกวิน
ซึ่งใบหน้าของทั้งคู่นั้นตรงกัน ปกรณ์จึงได้ใช้มือของตนเองนั้นเอื้อมไปเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาจากใบหน้าของกวิน
ทำให้กวินนั้นยิ้มแบบเขินๆ ทั้งๆ ที่มีเรื่องทุกข์ใจ…
“วันนี้ผมจะประกันตัวคุณออกไปก่อนนะ
ถ้าคุณบอกว่าคุณไม่ได้ทำความผิดจริงๆ คุณต้องพร้อมที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ Ok
ไหม” ปกรณ์พูดกับกวินแล้วเดินไปที่พนักงานสอบสวน
“คุณตำรวจครับ
ผมจะขอประกันตัวคุณกวินเกียรติครับ” ปกรณ์เดินไปที่พนักงานสอบสวนแล้วขอยื่นประกันตัว
“ประกันได้ครับ
แต่คุณต้องเซ็นรับรองว่าคุณกวินเกียรติจะไม่หลบหนีไปไหนจนกว่าจะสืบหาความจริงเสร็จ
เพราะคดีนี้ถึงจะเป็นคดีลักทรัพย์ แต่ทรัพย์นั้นเป็นทรัพย์ที่มีที่มาที่ไปและมีมูลค่ามากนะครับ
หวังว่าคุณคงเข้าใจนะ และจะต้องมารายงานตัวทุก 7 วัน”
เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดกับปกรณ์ด้วยสีหน้าที่ดูเคร่งเครียดพร้อมกับยื่นเอกสารให้กับปกรณ์และกวินเซ็น…
เมื่อปกรณ์ออกมาจากสถานีตำรวจพร้อมกับกวินเวลาก็ค่ำพอดี…
“ผมต้องขอบคุณพี่มากๆ
เลยนะครับที่ช่วยผมไว้ในวันนี้” กวินกล่าวขอบคุณปกรณ์ด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่เกรงใจ
“ไม่เป็นไรๆ คนกันเอง ถ้าว่าตัวเองไม่ผิด
ก็ต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจสิ” ปกรณ์ตอบกวินในขณะที่กำลังขับรถพลางหันมายิ้มให้และส่งสายตาที่กวนๆ
ให้กับกวินอยู่ตลอดเวลา
“งั้น…ผมจะรีบหาทำงานใหม่และเก็บเงินมาแทนพี่นะ หรือไม่พี่จะให้ผมทำยังไงก็ได้เพื่อตอบแทนที่พี่ช่วยผมในครั้งนี้” กวินพูดพลางยื่นข้อเสนอให้กับปกรณ์เพื่อที่จะเป็นการตอบแทน
เมื่อปกรณ์ขับรถมาส่งกวินถึงห้อง
ปกรณ์จึงขอกวินขึ้นไปที่ห้องด้วย เพราะปกรณ์นั้นปวดท้องอย่างหนัก…
“กวินผมขอขึ้นไปบนห้องคุณได้ไหม
ผมอยากเข้าห้องน้ำ อะ” ปกรณ์ขอกวินขึ้นไปบนห้องพักด้วยเพื่อที่จะไปเข้าห้องน้ำ
ทั้งที่กวินเองนั้นไม่ได้ตอบปกรณ์ก็วิ่งเข้าไปในตึกนั้นก่อนแล้ว
“ได้ๆๆ ครับ” กวินตอบปกรณ์พลางเงยหน้าขึ้นมาแต่ก็ไม่พบปกรณ์เสียแล้ว
กวินเองก็เริ่มที่จะมีใจให้กับปกรณ์
แต่ก็ได้แค่คิดเพราะในใจลึกๆ ของกวินคิดว่าคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
เพราะว่าตัวเองนั้นต่ำต้อย ไม่คู่กับเทพบุตรอย่างคุณปกรณ์ที่มีเพียบพร้อมทุกอย่าง
ทั้งหล่อ ทั้งรวย ซึ่งเป็นที่ต้องการของใครหลายๆ คน
แต่จะรู้ไหมว่าปกรณ์เองนั้นก็กำลังแอบหลงรักกวินอยู่
จึงคิดที่จะขึ้นไปบนห้องของกวินเพื่อจะดูว่ากวินนั้นอยู่ห้องไหน กับใคร ซึ่งปกรณ์หลงรักกวินตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน
อยู่ที่สนามบินครั้งที่กวินนั้นเดินทางมาจากประเทศไทย
ในขณะที่ปกรณ์เข้าห้องน้ำอยู่ กวินก็ได้ถอดเสื้อผ้า…
Cr.สวยคม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น